วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
การอ่านจับใจความสำคัญ
หลักการจับใจความสำคัญ
๑. ตั้งจุดมุ่งหมายในการอ่านให้ชัดเจน
๒. อ่านเรื่องราวอย่างคร่าวๆ พอเข้าใจ
และเก็บใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า
๓. เมื่ออ่านจบให้ตั้งคำถามตนเองว่า เรื่องที่อ่าน มีใคร ทำอะไร
ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
๔.
นำสิ่งที่สรุปได้มาเรียบเรียงใจความสำคัญใหม่ด้วยสำนวนของตนเองเพื่อให้เกิดความสละสลวย
วิธีจับใจความสำคัญ
วิธีการจับใจความมีหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับความชอบว่าอย่างไร
เช่น การขีดเส้นใต้ การใช้สีต่างๆ กัน แสดงความสำคัญมากน้อยของข้อความ
การบันทึกย่อเป็นส่วนหนึ่งของการอ่านจับใจความสำคัญที่ดี แต่ผู้ที่ย่อควรย่อด้วยสำนวนภาษาและสำนวนของตนเองไม่ควรย่อด้วยการตัดเอาข้อความสำคัญมาเรียงต่อกัน
เพราะอาจทำให้ผู้อ่านพลาดสาระสำคัญบางตอนไปอันเป็นเหตุให้การตีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้ วิธีจับใจความสำคัญมีหลักดังนี้
๑. พิจารณาทีละย่อหน้า หาประโยคใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า
๒. ตัดส่วนที่เป็นรายละเอียดออกได้ เช่น ตัวอย่าง สำนวนโวหาร
อุปมาอุปไมย(การเปรียบเทียบ) ตัวเลข สถิติ
ตลอดจนคำถามหรือคำพูดของผู้เขียนซึ่งเป็นส่วนขยายใจความสำคัญ
๓. สรุปใจความสำคัญด้วยสำนวนภาษาของตนเอง
วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น
แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น
การอ่านเพื่อแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นเป็นการอ่านอย่างไตร่ตรองพิจารณาเหตุผลแล้วตีความหมายของข้อความหรือเรื่องเพื่อแยกให้ได้ว่าส่วนใดเป็นข้อเท็จจริง ส่วนใดเป็นข้อคิดเห็น อะไรถูก
อะไรผิด
เพื่อให้การรับสื่อนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง
ดังนั้นการอ่านเพื่อแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น หมายถึง
การอ่านอย่างละเอียดทุกตัวอักษร
และเมื่ออ่านจบแล้วต้องแยกแยะได้ว่าอะไรคือข้อเท็จจริง อะไรคือความคิดเห็น อะไรถูก
อะไรผิด
ถ้าผิดก็ต้องทราบว่าผิดอย่างไร
(ที่มา : http://www.siam1.net/article-12923.html)
การวิเคราะห์ข้อความใดเป็นข้อเท็จจริง
ข้อความใดเป็นข้อคิดเห็น
นักเรียนจะต้องตั้งใจอ่านและตั้งใจฟังแล้วลองใช้หลักต่อไปนี้พิจารณาแยกแยะ
|
ลักษณะของข้อเท็จจริง
|
ลักษณะของข้อคิดเห็น
|
|
๑. มีความเป็นไปได้
๒. มีความสมจริง
๓. มีหลักฐานเชื่อถือได้
๔. มีความสมเหตุสมผล
|
๑. เป็นข้อความที่แสดงความรู้สึก
๒. เป็นข้อความที่แสดงความคาดคะเน
๓. เป็นข้อความที่แสดงการเปรียบเทียบ อุปมาอุปมัย
๔.
เป็นข้อความที่เป็นข้อเสนอแนะหรือเป็นความคิดเห็นของผู้พูดเอง
|
ตัวอย่างข้อความที่เป็นและข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น
|
ลักษณะของข้อความที่เป็นข้อเท็จจริง
|
ลักษณะของข้อของข้อความที่เป็นคิดเห็น
|
|
๑. จังหวัดเชียงรายอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย
|
๑. เชียงรายมีภูมิประเทศที่สวยงามน่าอยู่
|
|
๒. การทำลายป่าไม้ทำให้เกิดความแห้งแล้ง
|
๒. กินผักบุ้งทำให้ตาหวาน
|
|
๓. แมวมือมีฝีเท้าเบามาก
|
๓. คนที่เชื่อถือโชคลาง เชื่อว่าแมวเป็นสัตว์ลึกลับ
|
|
๕. มงคลเป็นนักเรียนโรงเรียนวัดถ้ำปลาวิทยาคม
|
๕ สมชายชอบวิชาภาษาไทย
|
การวิเคราะห์ข้อคิดเห็นจากสื่อ
การวิเคราะห์ข้อคิดเห็นจากสื่อ
“ข้อคิดเห็น”
หมายถึง ความเห็น
ความรู้สึกนึกคิดของผู้ส่งสารที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อหา
ลักษณะของข้อคิดเห็น
๑. เป็นข้อความที่แสดงความรู้สึก
๒. เป็นข้อความที่แสดงการคาดคะเน
๓.
เป็นข้อความที่แสดงการเปรียบเทียบหรืออุปมาอุปไมย
ตัวอย่างข้อความที่เป็นข้อคิดเห็น
๑. การปกครองในระบอบประชาธิปไตยดีทีสุด
(ไม่มีข้อวินิจฉัย)
๒. คนเรียนเก่งย่อมประสบผลสำเร็จในชีวิตเสมอ
(ไม่มีข้อยืนยัน)
๓.
การรับประทานแต่ผักไม่น่าจะเป็นผลดีต่อร่างกาย(ไม่มีข้อยืนยัน)
วิเคราะห์ข้อเท็จจริงจากสื่อ
วิเคราะห์ข้อเท็จจริงจากสื่อ
ข้อเท็จจริงหมายถึง
ข้อความแห่งเหตุการณ์ที่เป็นมาหรือเป็นอยู่ตามจริง
ข้อความหรือเหตุการณ์ที่จะต้องวินิจฉัยว่าเท็จหรือจริง
ลักษณะของข้อเท็จจริง
๑. มีความเป็นไปได้
๒. มีความสมจริง
๓. มีหลักฐานเชื่อถือได้
๔. มีความสมเหตุสมผล
ตัวอย่างข้อความที่เป็นข้อเท็จจริง
๑. กตเวที หมายถึง สนองคุณท่าน (พิสูจน์ได้โดยค้นความหมายจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
พ.ศ. ๒๕๒๕)
๒. ดวงตาเป็นอวัยวะที่ทำให้มองเห็น
(พิสูจน์ได้ด้วยหลักวิชาการ)
๓. ทุกคนหนีไม่พ้นความตาย
(พิสูจน์ได้จากประสบการณ์)
การอ่าน คิดวิเคราะห์
หลักการอ่าน
คิดวิเคราะห์
กระบวนการคิดวิเคราะห์
ขั้นที่ ๑ รวบรวมข้อมูล
คือการรับรู้เรื่องที่อ่าน ทำเข้าใจความหมายของคำ วลี ประโยคข้อความที่อ่าน
ขั้นที่ ๒ คิดวิเคราะห์ คือการจำแนกจับใจความสำคัญเรื่องที่อ่าน ตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่อ่านได้ว่า
ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ผลเป็นอย่างไร
ขั้นที่ ๓ สรุปสาระที่อ่าน
เป็นการสังเคราะห์ข้อมูลจากการอ่านสรุปและประเมินสิ่งที่อ่าน
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)